กว่าจะใส่กล่องต้องเริ่มจากการใส่ใจ

ผลไม้จากสวนธารทิพย์กว่าจะกลายมาเป็นผลไม้คุณคุณภาพดี รสชาติอร่อยบรรจุกล่องส่งถึงลูกค้า ต้องผ่านการดูแลที่ใส่ใจเป็นอย่างมาก เพราะทุเรียนแต่ละต้นต้องการการดูแลที่ต่างกัน เราจึงต้องใส่ปุ๋ยต้นต่อต้น เพื่อให้ได้ผลทุเรียนที่ดีที่สุด พร้อมส่งมอบให้กับทุก ๆ คน ชาวสวนธารทิพย์เราเดินเท้าเข้าสวนดูแลผลไม้ทุกต้นด้วยความรัก เพราะเราอยากให้ต้นไม้ทุกต้นแข็งแรงและมีผลผลิตที่สมบูรณ์

‍

‍

จุดเริ่มต้นเล็ก ๆ จากต้นพันธุ์ที่สมบูรณ์ 4300 ต้นที่เราใส่ใจ

4300 ต้น ในพื้นที่ที่อุดมไปด้วย ดิน น้ำ สภาพอากาศ ที่เหมาะสมกับต้นทุเรียน จึงทำให้ทุเรียนจากสวนธารทิพย์มีรสชาติที่หอมหวานอร่อยและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การใส่ใจในการปลูกผลไม้ของสวนธารทิพย์เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกต้นพันธุ์แท้ที่ดีที่สุด เพราะขั้นตอนนี้มีความสำคัญต่อการเติบโตและให้ผลผลิตที่มีคุณภาพเป็นอย่างมาก หากเลือกได้ดีโอกาสประสบความสำเร็จในการปลูกก็จะสูงตามไปด้วย เพื่อให้ผลไม้ที่เราปลูกอย่างใส่ใจเติบโตได้อย่างงดงาม

‍

‍

ดินที่ดีคือดินร่วนปนทราย ดินที่ให้ความอุดมสมบูรณ์ต่อผลผลิต

ดินร่วนปนทรายคือดินธรรมชาติของจังหวัดตราด ดินที่เหมาะสำหรับการปลูกทุเรียน เพราะดินร่วนปนทรายสามารถระบายน้ำได้ดี มีความยืดหยุ่น และมีแร่ธาตุที่เป็นอาหารของต้นผลไม้ จึงเหมาะกับการใช้ในการเพาะปลูกมากที่สุด ซึ่งดินร่วนปนทรายไม่ใช่ดินที่เราสามารถพบตามธรรมชาติได้ง่าย ๆ ในทุกพื้นที่ ด้วยสวนธารทิพย์ตั้งอยู่ในจังหวัดตราด เป็นจังหวัดที่อยู่สุดทางของภาคตะวันออกติดทะเลอ่าวไทย ทำให้ดินร่วนปนทรายเป็นเอกลักษณ์ของดินในจังหวัดตราด

‍

‍

การใส่ใจดูแลที่ยาวนานเพื่อรอวันที่ผลผลิตงดงาม

ในการดูแลผลไม้ทุกต้นต้องอาศัยเวลาที่ยาวนาน ทุกระยะของการเติบโตชาวสวนธารทิพย์ต้องใส่ใจดูแลอย่างใกล้ชิดเหมือนกับการดูแลเด็กให้เติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ เช่น การดูแลทุเรียน ต้องมีความละเอียดในทุกขั้นตอน ต้องอาศัยประสบการณ์และการเรียนรู้ในอดีตในการดูแล

‍

1. ในช่วง 3 ปีแรกต้องใช้กาบมะพร้าวห่มดิน เพื่อรักษาจุลินทรีย์หน้าดินและคงความชื้นในดินไว้ไม่ให้ระเหยไปกับแสงแดดและความร้อน ต้องตัดแต่งกิ่ง ใบ ตั้งแต่ปีแรกที่ปลูกเพื่อต้นทุเรียนเติบโตได้เร็ว

‍

2. การรดน้ำใส่ปุ๋ย ต้องรดน้ำตามความต้องการของต้นไม้ สังเกตจากความแห้งของดินและ

สภาพต้นที่สมบูรณ์ ใบเขียวมันเงาและเต็มใบ เพื่อให้ความชื้นในดินอยู่ในระดับที่เหมาะสม และให้ปุ๋ยด้วยปุ๋ยอินทรีย์สูตรพิเศษที่ทางสวนธารทิพย์หมักใช้เอง โดยในปุ๋ยจะมีจุลินทรีย์ที่มีขนาดเล็กมาก ๆ และมีความแข็งแรง ช่วยป้องกันโรคพืชต่าง ๆ ทำให้ทุเรียนและผลไม้อื่นในสวนธารทิพย์เติบโตได้อย่างมีคุณภาพและปลอดภัยกับลูกค้าทุกคน ซึ่งทีมงานสวนธารทิพย์จะเดินให้ปุ๋ยแบบต้นต่อต้นเพื่อให้ผลไม้แต่ละต้นได้รับปริมาณปุ๋ยที่เหมาะสม

‍

3. การคัดดอกที่สมบูรณ์เมื่อทุเรียนมีการออกดอกทางทีมสวนธารทิพย์ก็จะเริ่มคัดสรรดอกที่สมบูรณ์ เพื่อให้ผลทุเรียนออกมาสมบูรณ์ จากนั้นจะมีการบันทึกระยะของดอก เพื่อให้รู้ถึงเวลาในการเก็บผลผลิต และตรวจสอบคุณภาพได้อย่างละเอียดอีกด้วย

‍

4. การช่วยผสมเกสรหรือการปัดดอก เมื่อดอกทุเรียนบานสะพรั่งนับเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ชาวสวนธารทิพย์ต้องร่วมมือกันอีกครั้ง โดยชาวสวนธารทิพย์จะรวมตัวกันช่วงกลางคืนและพกอาวุธสำคัญ คือ “ไม้กวาดดอกหญ้า” ช่วยปัดดอกผสมเกสรแทนเหล่าผึ้งน้อย เพราะดอกทุเรียนจะบานในตอนกลางคืน แต่ผึ้งจะทำงานในตอนกลางวัน ดังนั้นชาวสวนธารทิพย์ต้องทำหน้าที่เป็นผึ่งน้อยช่วยผสมเกสรให้ดอกทุเรียนวันละเกือบ 3 ชั่วโมง เป็นระยะเวลากว่า 3 เดือน

‍

5. การแต่งผลทุเรียน หลังจากกลีบดอกร่วงโรยก็จะเผยให้เห็นผลทุเรียนเล็ก ๆ มากมายเริ่มเกิดขึ้นมาแทนที่ แต่ไม่ใช่ทุกผลที่จะสามารถเติบโตได้อย่างดี จึงต้องมีการคัดเลือกอีกครั้ง เพื่อให้ผลทุเรียนไม่แน่นแออัดเกินไป และต้องมีการคำนวณระยะห่างของแต่ละผลเพื่อการเติบโตอย่างสมบูรณ์

‍

6. เมื่อทุเรียนเติบโตเป็นผลที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักเยอะขึ้น จึงมาถึงขั้นตอนของการโยงกิ่งและการต้าวทุเรียน การโยงกิ่งคือการใช้เชือกฟางผูกโยงระหว่างกิ่งและลำต้นเพื่อไม่ให้กิ่งทุเรียนแบกรับหนักน้ำมากเกินไปและหักลงมา เมื่อโยงกิ่งแล้วก็ต้องมีการต้าวอีกครั้ง เพื่อเป็นการพยุงผลทุเรียนไม่ให้ร่วงลงมาจากกิ่งหากมีลมพายุรุนแรง โดยการต้าวจะใช้เชือกฟางผูกกิ่งต้นพาดผ่านผลทุเรียนเหมือนเปลที่ช่วยรับน้ำหนัก ซึ่งสีของเชือกฟางก็จะแสดงถึงรุ่นของทุเรียนที่ต่างกันอีกด้วย และนี่ก็เป็นหนึ่งในความใส่ใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการดูแลต้นทุเรียน

‍

‍

ช่วงเวลาแห่งความสำเร็จจากการดูแลอย่างใส่ใจ

การเก็บเกี่ยว เมื่อทุเรียนครบอายุตามกำหนดเก็บเกี่ยว จะต้องมีการเช็กว่าทุเรียนรุ่นนี้สามารถเก็บเกี่ยวได้หรือไม่ โดยการสุ่มตัดเพื่อนำมาตรวจสอบปริมาณแป้งหรือความสุกอีกครั้ง หากปริมาณแป้งและความสุกเหมาะสมคือจะต้องมีแป้งในผลทุเรียนเกิน 32-35% หรือมีความสุกอยู่ที่ 75-80% ก็นับว่าเหมาะสมในการเก็บเกี่ยวผลผลิต

‍

ตั้งแต่ต้นจนจบในทุกขั้นตอน สวนธารทิพย์ลงมือด้วยความใส่ใจและพิถีพิถัน เพื่อรสชาติที่ดีที่สุด ให้ลูกค้าทุกคนได้อิ่ม อร่อย ให้เราเป็นส่วนหนึ่งในช่วงเวลาแห่งความสุขของคุณ

‍